พลาดจนได้
สวัสดีจ้ะ เป็นครั้งแรกเลยที่มีเวลามานั่งพิมพ์เรื่องราวของตน เล่าให้สมาชิกหลายๆท่านฟัง ต้อยอายุยง 25 ปีจ้ะดำเนินการบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร รูปร่างของต้อยจัดว่าไม่ห่วยมากแค่ไหน ผิวไม่ขาวมาก ใบหน้าก็จัดว่าไม่ไม่สวย ความสูง 168 รูปทรง 32-25- 36 ส่วนบน ค่อนข้างจะเล็กหน่อยนะคะแต่ว่าด้านล่างโดยยิ่งไปกว่านั้นตูดของต้อยนี่สะดุดตาผู้พบเจออยู่เป็นประจำแน่ ต้อยเป็นผู้ที่ออกจะเขินอายมากมายจ้ะ เพราะฉะนั้นเวลาทำงานก็เลยไม่ค่อยได้คุยกับคนไหนกันแน่นัก แต่ว่าในออฟฟิตก็มีผู้ที่สนิทจะคุยด้วยไม่กี่คนแค่นั้น ธรรมดาเพื่อนฝูงๆของต้อยก็จะคุยกันแต่ว่าเรื่องทั่วๆไปแต่ว่าเพียงพอมีเวลาว่างมากมายๆหรือนัดหมายกันไปเปลืองที่ไหนก็ไม่วายที่จะเอาการลามกๆมาเม้าส์กันจนถึงคะนองปากแต่ว่าต้อยก็เฉยๆจ้ะแต่ว่าก็ไม่วายที่เพื่อนฝูงจะมาเม้าส์เรื่องตูดของต้อยกัน ต่างคนต่างถูกใจตูดของต้อยมากค่ะด้วยเหตุว่ามันค่อนจะกลมจนถึงงอนสะดุดตาจนถึงบางโอกาสเพื่อนฝูงๆยังยั้งใจไม่ไหวถูกใจแอบเอามือมาจับตูดต้อยบ้างหรือตีแรงๆบ้าง เจ็บจริงๆจ้ะ เพราะเหตุว่าเสียงดังเพลียะ….นี่ เนื้อล้วนๆเลยคะขา จนถึงบางโอกาสโกรธกันบ้างก็มีอยู่เป็นประจำมันเจ็บนี่ขาทำยังไงได้ ธรรมดาที่ออฟฟิตต้อยก็จะใส่เสื้อผ้าแบบฟรีสไตล์แต่ว่าวันไหนมีสัมมนาละก็จำต้องยุ่งยากหน่อยด้วยเหตุว่าจำต้องสวมยูนิฟอร์มใส่สูทวางโตนักธุรกิจไปนั่งสัมมนาด้วย น่ารำคาญจริงๆยิ่งไม่ถนัดสวมส้นสูงด้วย เดินหน นี่เมื่อยล้าข้อเท้าเลย
แต่ว่าเพื่อนฝูงๆจะดูจ้ะว่าต้อยใส่ชุดยูนิฟอร์มจะดูดีมากมาย แห๋มก็กระโปรงสั้นเลยหัวเข่ามาตั้งมากแถมรัดรูปขนาดนั้น ตูดกลมๆก็ขึ้นจนถึงเด่นเลย ใส่กางเกงในทรงไหนเขารู้กันหมดด้วยเหตุว่าขอบกางเกงชั้นในจะนูนขึ้นมานิดๆชายหนุ่มๆในโรงงานนี่ไม่ต้องเอ๋ยถึงเลย แอบดูต้อยและจากนั้นก็ซุบซิบนินทากันจนถึงต้อยไม่กล้าเดินไปไหนเลย แห๋ม….ก็คนเคยสวมแต่ว่ากางเกงนี่ขาเพียงพอมาใส่กระโปรง รองเท้าส้นสูงก็เดินไม่ค่อยจะถนัดมากแค่ไหน ยิ่งเวลานั่งนี่ไม่ต้องเอ๋ยถึงเลยจ้า หวอ ออกจนถึงเพื่อนฝูงจำต้องเตือนเป็นประจำต้อยนี่อายเลย ดีนะที่ไม่ต้องใส่ชุดนี้เป็นประจำแต่ว่าอาทิตย์นึงก็จำต้องใช้ถึง 2-3 วันโน่นยิ่งลูกค้ามาบ่อยๆนี่ จำต้องนั่งเกร็งคีบขาตลอด เมื่อยล้าเลยจ้า
มาถึงเรื่องหลุดของต้อยที่ต้อยอยากเล่าบ้างนะคะ หัวข้อนี้มันน่าขายหน้ามากมายเลยแต่ว่ามันก็ทำให้ต้อยรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกผิดแล้วก็ครั้งใดก็ตามต้อยช่วยเหลือตัวเองก่อนนอนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงหัวข้อนี้แล้วก็จินตนาการไปต่างๆนานา เรื่องมีอยู่ว่า ปกตินั้นเวลาต้อยเลิกดำเนินการกลับไปอยู่ที่บ้าน เพียงพอถึงที่บ้านภายหลังพักผ่อนให้หายเหนื่อยทานข้าวดื่มน้ำแล้วต้อยก็ขึ้นห้องของตนจ้ะ เพียงพอถึงห้องก็จะถอดกางเกงออกแล้วก็โยนกองในกระเช้า สวมเพียงแต่กางเกงชั้นในตัวเดียวแล้วก็เชิ้ตมานั่งดำเนินการที่โต๊ะอยู่เป็นประจำก่อนจะไปอาบน้ำ ต้อยทำแบบนี้จนถึงเคยตัวแล้วจ้ะแต่ว่าแล้ววันนึงก็พลาดจนได้ วันนั้นต้อย จำต้องใส่ชุดยูนิฟอร์มการสัมมนาจำต้องสวมถุงน่อง กระโปรง สูท ไปในวันนั้น วันนั้นงานรัดตัวเลยจ้าเลยจำต้องมาทำต่อที่บ้านพอกลับมาปรากฏว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้าน มีแต่ว่าน้องชายแล้วก็เพื่อนฝูงๆของน้องมาท่องเที่ยวที่บ้านโดยประมาณ 5-6 คน ต้อยก็มิได้ว่าอะไรหรอกจ้ะด้วยเหตุว่าเคยได้เห็นหน้ากันอยู่เป็นประจำ
แต่ว่าแล้วด้วยนิสัยส่วนตัวที่บอกน่ะ วันนั้นมีงานมากมายด้วยดื่มน้ำได้พักนึงก็รีบขึ้นห้องไปจัดการงานต่อ เพียงพอถึงห้องก็ถอดกระโปรงออกโยนกองไว้ที่ประจำ ถอดเสื้อสูทห้อย แต่ว่ายังใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวบางๆอยู่ วันนั้นมีความคิดว่าตนเองน่ามองอย่างบอกผิดเลยจ้าเพียงพอมายืนดูกระจกดูตัวเองซึ่งในตอนนั้นสวมถุงน่องสีครีมอ่อนๆมาถึงเอวมีกางเกงชั้นในสีเหลืองอ่อนลายเล่ห์เหลี่ยมซึ่งตรงเป้าจะแตกตะเข็บถุงน่องพิงกึ่งกลางหว่างขาพอดิบพอดีแล้วก็รัดจนถึงขึ้นเป็นร่องเลยแถมยังดูทะลุมองเห็นขนที่ขึ้นดกดำลางๆอีก ยังอดเอามือลูบคลำนั่นของตนมิได้เลยจ้า พอลูบแล้วมันก็รู้สึกเสียวๆขึ้นมาโดยทันทีเลย แต่ว่าก็ยังยั้งใจไว้ได้น่าฟังมีงานกองอยู่ ก็ใส่ชุดแบบงั้นล่ะจ้ะนั่งดำเนินการบนโต๊ะในห้องตนเอง ครู่หนึ่งใหญ่ๆเลยจ้า เสียงโทรศัพท์ดังมาจากด้านล่างดังยาวนานมากและจากนั้นก็เงียบ ทราบเลยว่าไม่มีผู้ใดรับสาย ต้อยยังคิดอยู่ว่าน้องชายอาจออกไปด้านนอกแล้ว ครู่หนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก ชั่วประเดี๋ยวก็เงียบมีความรู้สึกว่าน่าจะมีผู้รับสายแล้ว(น้องชายอาจรับสายแล้ว) ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ” พี่ๆๆป๊ะป๋าพี่โทรมาขอรับ ท่านจะสั่งงานอะไรก็ไม่รู้จัก ” เป็นเสียงเพื่อนฝูงของน้องชายจ้ะ ต้อยก็แผดเสียงไปว่าให้เรียกน้องของต้อยมารับสายหน่อย แต่ว่าเขาก็ตอบกลับมาว่า ” ไม่อยู่ขอรับออกไปจับจ่ายซื้อของด้านนอกกับเพื่อนฝูง…” แค่นั้นล่ะจ้ะต้อยเลยจำต้องรีบวิ่งออกไปรับสายโทรศัพท์ด้วยเหตุว่าป๊ะป๋าท่านจะดุมาก ถ้าเกิดท่านรอนานๆกลับมาอาจแสดงธรรมมากมาย แล้วก็ด้วยเหตุว่าความรีบนั่นเองต้อยเลยลืมไปเลยว่าตนเองอยู่ในชุดอะไร ทีแรกๆยังไม่รู้ตัวหรอกจ้ะ วิ่งไปถึงโทรศัพท์ก็รีบรับสายเลย
คุยกันอยู่ครู่หนึ่งนึงหันไปรอบก็มองเห็นแต่ว่าสายตาของเพื่อนฝูงๆน้องชายแอบจ้องมองมาดูต้อยเป็นประจำยังไม่รู้ตัวจ้ะ ยังยืนพูดคุยโทรศัพท์เฉย(มีความรู้สึกว่าตนเองใส่กางเกงจ้ะ) ส่วนพวกเพื่อนฝูงๆน้อง3-4 คนก็ดูกันตาเหล่ม็งเลย จวบจนกระทั่งต้อยรู้สึกคันๆตรงหว่างขาเลยเอามือไปลูบคลำๆตอนนี้ล่ะจ้ะนึกได้เลยว่าตนเองอยู่ในชุดอะไรแล้วก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าพวกเพื่อนฝูงของน้องชายวัยรุ่นทั้งหลายแหล่เขาจ้องดูต้อยเพราะอะไร ดวงใจต้อยเต้นตุ้บๆๆเลย ขา มือรู้สึกอ่อน หมดเรี่ยวหมดแรงไปหมดเลยจ้า ความเขินอายความเขินมันเริ่มบีบคั้น หูที่ฟังสายโทรศัพท์อยู่จากที่เคยทราบชัดเริ่มสนั่นจนถึงฟังอะไรไม่รู้เรื่องสุดแท้แต่ต้อยก็มานะข่มอารมณ์ตนเองจ้ะเพื่อไม่ให้เขินไปๆมาๆกกว่านี้ เบาๆขยับตัวหมุนกลับหันหลังให้กับสายตา 3-4 คู่ที่กำลังจ้องดูอยู่ หันไปพบกระจกแอบดูไปด้านหลังพบว่าสายตา3-4 คู่นั้นกำลังจ้องดูตูดของต้อยตาเป็นเงาเลยจ้า บิดาก็ยังไม่วางสยซะหน(ทำอย่างไรดีเนี่ย) เชิ้ตที่สวมวันนั้นก็ดันเอวลอยซะสูงดึงมาปิดอะไรด้านล่างก็มิได้เลย นั่นของต้อยมันรู้สึกเสียวๆอย่างบอกผิดจ้ะ ดังว่ามันจะสั่นระริกๆเริ่มมีความคิดว่าน้ำของตนมันจะเยิ้มๆออกมานิดๆดูเงาในกระจกสายตาทั้งยัง 3-4 คู่ยังจ้องกับบั้นเอวของต้อยประเภทไม่กะพริบตาเลย จวบจนกระทั่งพูดคุยโทรศัพท์จบแค่นั้นล่ะจ้ะ
ต้อย จำต้องมานะสงบใจแล้วก็เบาๆเดินขึ้นบันไดไปเฉยๆกลับไปที่ห้อง ในขณะที่ดวงใจตนเองนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เพียงพอเข้าห้องได้ปิดประตูล๊อคห้องต้อยหัวเข่าอ่อนลงไปกองอยู่ตรงประตูเลยจ้า ทั้งยังอายทั้งยังเขินมันตื่นเต้นอย่างบอกผิด วันนั้นต้อยไม่กล้าลงไปด้านล่างเลยจ้าอายพวกน้องๆเขามากมาย กลัวว่าเพื่อนฝูงๆอาจเอาการนี้ไปล้อน้องชายตนเองแน่นอนแต่ว่าทำยังไงได้ขามันพลาดไปแล้วจริงๆภายหลังวันนั้นผ่านไปต้อยคิดหัวข้อนี้ขึ้นมาทีไรก็ยังยั้งใจมิได้ที่จะนอนช่วยเหลือตัวเองก่อนนอนทุกหน บางคืนเสร็จไปถึง 2-3 ครั้งแล้วก็หลับจนถึงสนิท ต้อยไม่กล้าเล่าให้คนไหนกันแน่ฟังเลยจ้ายังคงเก็บไว้เฉยๆผู้เดียวในใจ แต่ว่าภายหลังวันนั้นแล้วสิ่งที่แปรไปเป็นเพื่อนฝูงของน้องชอบมาท่องเที่ยวที่บ้านเป็นประจำขึ้นจ้ะ บางโอกาสกลับมานี่นั่งกันอยู่เยอะไปหมดเลย สายตาแต่ละคนจ้องมาที่ต้อยแล้วก็อีกหลายคู่ก็แวปมาจ้องที่บั้นเอวของต้อยจนถึงทำให้ต้อยรู้สึกเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอย่างบอกผิด พวกเขาก็จะหวังที่กำลังจะได้มามองเห็นของดีอีกแต่ว่าต้อยไม่ยินยอมพลาดแล้วจ้ะ บางโอกาสในช่วงเวลาที่เพื่อนฝูงๆของน้องมานั่งจับกลุ่มอยู่ด้านล่าง ต้อยเองสิขา เพียงพอเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาก็ขึ้นเขาห้องแล้วก็นอนแก้ผ้าช่วยเหลือตัวเองอยู่บนเตียงในใจก็คิดจินตนาการไปว่าโดนคนเหล่านั้นรุมขืนใจอยู่
มันช่วยเร้าอารมณ์ของต้อยให้กระเจิดกระเจิงแล้วก็ถึงจุดสูงสุดได้อย่างพิลึกมากมายเลย จนเดี๋ยวนี้บ่อยมากที่ต้อยช่วยเหลือตัวเองเสร็จก็จะเปลี่ยนแปลงชุดนุ่งกระโจมอกเดินลงมาอาบน้ำที่ห้องสุขาด้านล่างทั้งที่พวกน้องๆเขายังนั่งกันอยู่(ธรรมดาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไม่เคยกล้าลงมาเลยจ้า) แถมยืนช่วยเหลือตัวเองในห้องสุขาจนถึงเสร็จก็เคยและจากนั้นก็เดินขึ้นห้อง ต้อยเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่มีความต้องการที่มีอยู่ในใจอย่างบอกผิดจนเดี๋ยวนี้ครั้งคราวต้อยจะนอนแก้ผ้าแก้ผ่อนอยู่ข้างในห้องแล้วก็นอนช่วยเหลือตัวเองจนถึงหลับไป หลับไปกับจินตนาการที่ไม่มีทางสิ้นสุด และไม่ใช่เรื่องยาก กับใส่กระโปรงสั้นๆไปดำเนินการแล้วจำเป็นจะต้องอายอีกด้วยเหตุว่ายิ่งสายตาหลายคู่ที่แอบดูหรือครั้งใดก็ตามต้อยรู้สึกตัวว่าเผลอทำหวอออกให้ผู้อื่นมองเห็นมันทำให้ต้อยมีอารมณ์แล้วก็ความรู้สึกอย่างงั้นอย่างบอกผิดแล้วก็ในที่สุดก็จะเก็บอารมณ์นั้นไว้มาช่วยเหลือตัวเองต่อในห้องนอนจนถึงจบ เพียงพอพบกับแฟนซึ่งนานๆจะเจอกันหนต้อยอยากจะบอกเขาเลยจ้าว่าต้อยจะเห็นด้วยเลยถ้าเกิดเขาจะขอร่วมรักกับต้อย ยิ่งในตอนที่ได้ทำกับแฟนต้อยก็อดไม่ได้จ้ะที่จะจินตนาการไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ครั้งคราวยังคิดไปถึงว่าตนเองถูกล่วงเกินหรือถูกรุม ผลักไปที่แห่งไหนซักที่แล้วก็โดนเรียงคิวข่มขืนแบบสุดๆท่ามกลางสายตาของผู้ที่ประสบพบเห็น จนถึงครั้งคราวต้องการที่จะเห็นภาพเปลือยของตนมาปรากฏในหน้าอินเตอร์เน็ตหรือหน้าโรงงานตนเอง จินตนาการพวกนี้มันทำให้ต้อยมีความสำราญมากมายจ้ะ นี่ต้อยกำลังจะเป็นคนวิกลจริตเซ็กส์ไปแล้วใช่ไหมขา…